การใช้ระบบ IVR ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการธุรกิจ ระบบตอบรับโทรศัพท์อัตโนมัติ
หรือ IVR (Interactive Voice Response) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ
และปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า หากใช้อย่างเหมาะสม ระบบ IVR สามารถช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน
เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น บทความนี้จะเสนอ
แนะแนวทางในการใช้ IVR ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
1. ออกแบบเมนูที่เข้าใจง่าย
การออกแบบเมนูของ IVR ควรคำนึงถึงความง่ายในการใช้งานของลูกค้า หลีกเลี่ยงการสร้างเมนูที่ซับซ้อน
หรือมีตัวเลือกมากเกินไป คำแนะนำควรชัดเจน กระชับ และใช้ภาษาที่ลูกค้าสามารถเข้าใจได้ง่าย
ตัวอย่างเช่น การใช้คำสั่งเชิงตัวเลข (“กด 1 เพื่อติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า”) หรือคำสั่งเสียงที่ง่ายต่อการจดจำ
2. ลดความยาวของเมนู
เมนู IVR ที่ยาวเกินไปอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกหงุดหงิดและหลุดสายได้ การจำกัดจำนวนตัวเลือกในแต่ละเมนู
ให้น้อยที่สุด (เช่น ไม่เกิน 5 ตัวเลือก) และจัดลำดับความสำคัญของตัวเลือกที่ลูกค้าใช้งานบ่อย
จะช่วยลดระยะเวลาการรอและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
3. มีระบบโอนสายไปยังเจ้าหน้าที่
แม้ว่า IVR จะช่วยลดการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ แต่ในบางกรณี ลูกค้าอาจต้องการความช่วยเหลือที่ซับซ้อน
ซึ่งไม่สามารถแก้ไขผ่านระบบอัตโนมัติได้ การมีตัวเลือกให้โอนสายไปยังเจ้าหน้าที่ (Agent) เป็นสิ่งสำคัญ
ควรทำให้กระบวนการนี้เข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว
4. ใช้เสียงที่น่าฟังและเป็นมืออาชีพ
เสียงที่ใช้ในระบบ IVR ควรเป็นเสียงที่ฟังง่าย เป็นมิตร และสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ ควรลงทุน
ในคุณภาพของการบันทึกเสียงเพื่อให้ได้เสียงที่ชัดเจนและปราศจากเสียงรบกวน
5. ปรับระบบให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
การตั้งค่าของ IVR ควรสอดคล้องกับความต้องการและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เช่น การใช้ภาษา
การเลือกโทนเสียง หรือการตั้งค่าตัวเลือกเมนูที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะกลุ่ม
6. มีระบบวิเคราะห์ข้อมูล (Analytics)
การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลจากการใช้งาน IVR เช่น เวลาที่ลูกค้าใช้ในแต่ละเมนู อัตราการหลุดสาย
หรือข้อร้องเรียนเกี่ยวกับระบบ จะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้น
7. อัปเดตระบบอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อให้ IVR มีประสิทธิภาพสูงสุด ควรตรวจสอบและอัปเดตระบบอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านข้อมูลและเทคโนโลยี
เช่น การเพิ่มคำแนะนำใหม่ที่สอดคล้องกับบริการล่าสุด หรือการปรับปรุงให้รองรับเทคโนโลยีใหม่ เช่น AI
หรือการจดจำเสียง (Voice Recognition)
8. ลดระยะเวลาการรอคอย
ลูกค้ามักไม่ชอบการรอคอยเป็นเวลานาน ดังนั้น ควรใช้ระบบ IVR เพื่อกระจายการโทรไปยังทีมที่เหมาะสม
โดยเร็วที่สุด เช่น การจัดลำดับสายตามความสำคัญ หรือการใช้ระบบ Callback ที่ให้ลูกค้าทิ้งเบอร์ไว้
เพื่อรับการติดต่อกลับ
9. ทดสอบระบบก่อนใช้งานจริง
ก่อนนำระบบ IVR มาใช้งาน ควรมีการทดสอบอย่างละเอียดในทุกขั้นตอนเพื่อให้มั่นใจว่าระบบทำงานได้อย่าง
ถูกต้อง ไม่มีข้อผิดพลาด และมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า
10. ใช้ระบบ AI เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ
การนำ AI เข้ามาเสริมใน IVR เช่น การใช้ระบบจดจำเสียงเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถพูดคำสั่งแทนการกดปุ่ม
หรือการใช้ AI วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าแบบเรียลไทม์ จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและลดระยะเวลา
การดำเนินการ
บทสรุป การใช้ IVR อย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้เป็นเพียงการพัฒนาการดำเนินงานภายในองค์กร แต่ยังช่วย
เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าอีกด้วย การออกแบบระบบให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ปรับปรุง
อย่างต่อเนื่อง และใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ IVR เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจ
ในยุคดิจิทัล
ECOCALL เราให้ความสำคัญต่อการพัฒนาระบบโทรศัพท์ในองค์กรอย่างต่อเนื่อง เรามีระบบบันทึกเสียง
สนทนาทางโทรศัพท์ ผ่าน Server Ecocall ที่มีความเสถียรและปลอดภัย เป็นที่ไว้วางใจในธุรกิจ
Contact Center และ ธุรกิจเร่งรัดหนี้สิน กว่า 100 แห่งทั่วประเทศ สนใจระบบบันทึกเสียงสนทนา
ทางโทรศัพท์ ปรึกษาฟรีที่เบอร์ 063-269-8988
ECOCALL เราช่วยคุณประหยัดมากกว่าค่าโทรศัพท์